มาทำความรู้จักกับระบบ OEM กันเถอะ
OEM หรือ Original Equipment Manufacturer เป็นระบบที่เน้นในเรื่อง การผลิตสินค้าตามคำสั่งซื้อของลูกค้าที่มีความสนใจอยากจะจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ของตนเอง อีกทั้งยังช่วยลดภาระและปัญหาในการทำธุรกิจของลูกค้าอีกด้วย ดังนั้นจึงเหมาะสำหรับลูกค้าที่ต้องการเริ่มต้นธุรกิจเป็นของตนเองแต่ไม่รู้ว่าควรจะทำยังไง หรือวางแผนการตลาดยังไง ดังนั้น OEM จึงมีข้อดีหลากหลายประการดังนี้
- ผู้ประกอบการสามารถเปิดธุรกิจเป็นของตนเองได้ทันที แม้จะไม่เชี่ยวชาญในด้านการผลิตหรือการวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาดก็ตาม เพียงแค่เข้ามาปรึกษากับทางโรงงานที่ให้บริการด้าน One Stop Service แบบครบวงจรก็สามารถวางแผนไปพร้อมๆ กับทางโรงงานได้ทันที
- ทางโรงงานที่ให้บริการ One Stop Service จะช่วยผู้ประกอบการในด้านการวางแผนพัฒนาสูตรเครื่องสำอางหรืออาหารเสริมตามความต้องการ โดยเจาะรายละเอียดลงไปตั้งแต่วัตถุดิบและส่วนผสมที่จะนำมาเลือกใช้ การให้บริการออกแบบบรรจุภัณฑ์สินค้าให้ดูสวยงามและน่าดึงดูดใจ บรรจุสินค้าด้วยเครื่องจักรที่ทันสมัยและปลอดภัย มีการให้คำปรึกษาทางด้านการตลาดทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายที่ผู้ประกอบการต้องการขายมากที่สุด บริการขึ้นทะเบียนอาหารและยา (อย.) โดยกระทรวงสาธารณสุข อย่างรวดเร็วและถูกต้องตามกฎหมาย ช่วยให้คุณไม่ต้องยุ่งยากและสามารถนำสินค้าไปจัดจำหน่ายได้อย่างไม่ต้องกังวล รวมทั้งบริการจัดส่งสินค้าถึงที่และอื่นๆ อีกมากมาย เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้บริการ
- ช่วยประหยัดงบประมาณในการจัดตั้งโรงงาน รวมถึงการจ้างคนงานอีกด้วย ทำให้เหลือเงินที่สามารถนำไปใช้ในการวางแผนการตลาดหรือพัฒนาสินค้าให้ดียิ่งขึ้น
- ช่วยลดปัญหาที่อาจเกิดจากการผลิต เนื่องจากผู้ประกอบการได้มอบหมายให้ทางโรงงานเป็นผู้รับผิดชอบขั้นตอนการผลิตทุกกระบวนการไปหมดแล้ว
- เป็นเจ้าของสินค้าที่มีคุณภาพและได้มาตรฐานตามหลักสากล โดยที่ไม่ต้องใช้งบประมาณที่สูงนัก
- ผู้ประกอบสามารถผลิตสินค้าในปริมาณที่ต้องการ และไม่จำเป็นต้องผลิตจำนวนมาก อีกทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงในการลงทุนอีกด้วย
หากผู้ประกอบการคนใดสนใจอยากจะผลิตอาหารเสริมหรือเครื่องสำอางที่มีคุณภาพ ปลอดภัยและได้มาตรฐานตามหลักสากลในกรอบราคาที่เหมาะสม รวมทั้งมีบุคลากรผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษาตั้งแต่ด้านการคัดเลือกวัตถุดิบมาทำผลิตภัณฑ์ การออกแบบแพ็กเกจให้ดูสวยงามและดึงดูดกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย การให้คำปรึกษาทางด้านการตลาดที่สามารถจับต้องได้และช่วยเพิ่มยอดขายให้แก่ผลิตภัณฑ์ การดำเนินการติดต่อเอกสารที่ช่วยอำนวยความสะดวก อย่างการขึ้นทะเบียนกับ อย.กับการจดทะเบียนเครื่องหมายทางการค้าแล้วล่ะก็ ขอให้เก็บโรงงานอินโนว่าแห่งนี้ไว้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกของคุณ เพราะรับรองได้ว่าบริการของเราจะสร้างความประทับใจให้กับคุณและไม่ทำให้คุณผิดหวังอย่างแน่นอนค่ะ
ถ้าต้องการมีผลิตภัณฑ์/แบรนด์เป็นของตัวเอง ต้องทำยังไงบ้าง
ลูกค้าควรเตรียมตัวลองศึกษารายละเอียดเบื้องต้นก่อนว่าอยากมีผลิตภัณฑ์อะไร เช่น
- ประเภทสินค้า เช่น ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร, วิตามิน, ยา, สมุนไพร, ครีม, เครื่องสำอาง เป็นต้น
- สูตร สรรพคุณ คุณประโยชน์ หน้าที่ของผลิตภัณฑ์
- รูปแบบผลิตภัณฑ์ เป็นเม็ดฟู่ ผงฟู่ เจลลี่ อัดเม็ด แคปซูล ผงชงดื่ม หรือ ครีม
- ตัวอย่างสินค้าใกล้เคียงที่ต้องการ
- รูป แบบบรรจุภัณฑ์ เม็ดใส่กระปุกพลาสติกใสสีชา สีขาวขุ่น มีซองกันชื้น ฝาเกลียว หรือฝาฉีก ฝากด ฉลาก กล่อง การออกเบบและพิมพ์จะทำมาให้ หรือให้โรงงานจัดหา การซีลจะใช้ ฟิล์มหด กาว หรือสติกเกอร์ เม็ด/แคปซูล ใน บริสเตอร์ฟรอย์ด ขนาด 5,10,15 ในซองอลูมิเนียมเพื่อกันความชื้น และการบรรจุกล่อง การ ซีลกล่อง ด้วยฟิล์มหด สติกเกอร์ หรือกาว โดยใช้กับกล่องฉีก เป็นต้น
มีค่าใช้ดำเนินการในการใช้บริการ OEM/ODM ประมาณเท่าไร
ลูกค้าสามารถเลือกใช้บริการต่างๆ ได้ตามที่ต้องการ ซึ่งในแต่ละขั้นตอนมีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นโดยประมาณ ดังนี้
วิจัยและพัฒนาสูตร | ราคาเริ่มต้น 20,000 บาท/สูตร |
จดทะเบียน อย. | ราคาเริ่มต้น 15,000 บาท/สูตร |
การผลิต | ราคาเริ่มต้น ดูจากจำนวนการสั่งผลิตขั้นต่ำ Q3 |
บรรจุตัวยา/Repack | ราคาเริ่มต้น 5-10 บาท/ชุด |
จำนวนการสั่งผลิตขั้นต่ำ แต่ละชนิด
ด้วย นโยบายของเราที่ต้องการสนับสนุนผู้ ประกอบการขนาดเล็กหรือผู้เริ่มต้นธุรกิจ เราจึงบริการรับสั่งผลิตขั้นต่ำกว่าโรงงานอื่นๆ ทั้งในด้านราคาและจำนวน ซึ่งเรารับผลิตแต่ละชนิด ดังนี้
เม็ด (Tablet) | MOQ: 30,000 เม็ด |
แคปซูล (Capsule) | MOQ: 30,000 เม็ด |
ครีม (Cream) | MOQ: 35,000 บาท |
ผงชงดื่ม (Powder) | MOQ: 30,000 ซอง |
สนใจสอบถามเพิ่มเติม โทรปรึกษาแผนธุรกิจ ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย คลิกเลย >>>
บริษัท อินโนว่า แล็บโบราโทรี่ จำกัด
8 ขั้นตอนการ รับผลิตอาหารเสริม และ การบริการ OEM
- Concept Product – ลูกค้าเตรียมข้อมูลความต้องการที่จะผลิตหรือจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ว่าต้องการสั่งผลิตภัณฑ์แนวไหน ราคาเท่าไหร่ ให้ผลลัพธ์แบบใด หรือขอคำปรึกษากับทีมพัฒนาผลิตภัณฑ์
- Product formulation – ฝ่ายวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ทำการคิดค้นสูตร จัดเตรียมและเลือกใช้ส่วนผสมที่ใช้แล้วได้ผลลัพธ์ตรงตามความต้องการของ ลูกค้าโดยคัดเลือกวัตถุดิบคุณภาพสูงที่สุดในกรอบของราคาที่เหมาะสมและกลุ่ม เป้าหมายทางการตลาดที่ลูกค้ากำหนด
- Example prep – ในกรณีที่ลูกค้าต้องการสินค้าตัวอย่างทดลองใช้ ทางฝ่ายวิจัยและพัฒนา จะทำการเตรียมตัวอย่างผลิตภัณฑ์และจัดส่งให้แก่ลูกค้า หลังจากสรุปส่วนผสมของผลิตภัณ์และรูปแบบได้แล้ว ทางบริษัทจะทำการประเมินราคา
- จดแจ้งอ.ย. และเครื่องหมายการค้า – หลังจากสรุปส่วนผสมและชื่อของผลิตภัณ์ได้แล้ว ทางลูกค้าทำการวางเงินมัดจำ จำนวน 50% และเซ็นสัญญาว่าจ้างผลิต ทางบริษัทก็จะดำเนินการขึ้นทะเบียนกับทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาให้ รวดเร็วที่สุด เพื่อให้ได้รับการอณุมัติภายใน 60-120 วันทำการ รวมถึงการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า (ถ้าลูกค้าต้องการ)
- ออกแบบบรรจุภัณฑ์ – ทางฝ่ายงานออกแบบจะออกแบบรูปแบบบรรจุภัณฑ์ตามความต้องการของลูกค้า และนำเสนอตัวอย่างภาพผลิตภัณฑ์ในรูปแบบภาพ 3D ให้แก่ลูกค้า
- ผลิตสินค้า – ผลิตสินค้าด้วยกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐาน GMP (Good Manufacturing Practice) และใช้เครื่องจักรที่ทันสมัย มีการตรวจสอบคุณภาพวัตถุดิบอย่างเข้มงวดโดยใช้ใบรับรองการตรวจวิเคราะห์ (Certificate of Analysis : COA) ในทุกล๊อต และใช้ระบบในการบริหารจัดการคลังสินค้าแบบเข้าก่อน-ออกก่อน (First In-First Out : FIFO) เพื่อคุณภาพของผลิตภัณฑ์ของลูกค้า
- บรรจุหีบห่อ – เมื่อสินค้าผ่านการผลิตเสร็จเรียบร้อย ทางโรงงานจะทำการบรรจุหีบห่อ ห่อฟิล์ม และบรรจุลงกล่องก่อนจัดส่งไปยังสถานที่ที่ลูกค้าต้องการ
- ตรวจสอบ ส่งมอบ และชำระเงินค่าสินค้าที่เหลือ – เมื่อลูกค้าได้รับสินค้าแล้ว ลูกค้าสามารถตรวจสอบสภาพสินค้าว่าตรงตามข้อกำหนดหรือมีสิ่งใดผิดพลาดจาก กระบวนการผลิตหรือไม่ ลูกค้าจึงชำระเงินส่วนที่เหลืออีก 50%